มูฮัมหมัด ฟาราห์ ไอดิด ผู้นำโซมาเลีย
ในปี 1993 กองทัพสหรัฐเดินทางมายังโซมาเลีย แอฟริกาตะวันออก ในฐานะ สหประชาชาติ เพื่อมารักษาความสงบและเรียบรeอย และช่วยเหลือผู้หิวโหยซึ่งขาด แคลนอาหาร และมีผู้เสียชีวิตจากการขาดอาหารกว่า 3 แสนคน ซึ่งเกิดจากผู้นำทัพ โมฮาหมัด ฟาราห์ ไอดิค (Mohamed Farrah Aidid) ผู้นำชนกลุ่มน้อย ฮับร์กิดร์ (Habar Gedir) ที่ยึดอำนาจและครองเมือง หลวงโมกาดิชูไว้โดยแย่งชิง และเก็บอาหารที่สหประชาชาติ ส่งมาช่วยเหลือรวม ทั้งต่อต้านการช่วยเหลือประชาชนจากสหประชาชาติ เพื่อตัดกำลังฝ่ายศัตรู สหประชาชาติ และสหรัฐ (นาวิกโยธิน 20,000 นาย) เข้าเคลียร์พื้นที่ และเปิดทางให้อาหารและความช่วยเหลือเข้ามารวมทั้งฟื้นฟูความสงบ
ไอดิค ประกาศสงครามกับสหรัฐและสหประชาชาติ สหรัฐจึง ส่งกองกำลัง ผสมพิเศษ Delta Force, Ranger, 160th SOAR (160th Special Operations Aviation Regiment) ไปยังโซมาเลีย สหรัฐต้องการขจัดปัญหา โดยการลดอำนาจของไอดิค ด้วยการตัดมือและเท้าของไอดิค ด้วยการ จับกุมทหาร คู่ใจของไอดิค คือ Omar Salad และ Mohamed Hassan Awale ผู้ซึ่ง ถูกกล่าวหาว่า เป็นสาเหตุหนึ่งของสงครามกลางเมือง
แผนผังการปฏิบัติการ
เพื่อลดทอนอำนาจของไอดิคทีละน้อย และปฎิบัติการคือ การบุกจับกุม กลุ่มผู้นำชนกลุ่มน้อย รวม 20 กว่าคน ที่จะมาประชุม ในบ้านหลังหนึ่งบนถนนฮอร์วลาดิก ในย่านดาวน์ทาว์น ของโมกาดิชู โดยมีหน่วยเดลต้า 40 นายบุกเข้าจับกุม และมีทหารอีก 4 หน่วยกับ ฮอริคอปเตอร์ Black Hawk 4 ลำคอยคุ้มกัน ผู้ถูกจับกุม จะถูกนำตัวใส่รถบรรทุกฮัมวี 12 คัน แลัวมุ่งหน้ากลับฐานทัพ ซึ่งอยู่ห่างออกไปนอกเมือง 3 ไมล์ ภาระกิจมีเวลาประมาณ 45 นาที เป็นภาระกิจที่ไม่ยากมากนัก
75th Ranger Regiment Bravo Company
ปฏิบัติการ จะใช้ชื่อ Task Force Ranger ซึ่งจัดกำลังจากกรม Ranger ที่ 75 (75th Ranger Regiment) และ Delta Force ส่วนของ Ranger นั้นจะทำหน้าที่ คุ้มกันให้กับ Delta ซึ่งรับผิดชอบใน การจับตัวปฎิบัติการน่าจะเป็นไปด้วยดี แต่การเตรียมตัวสำหรับปฎิบัติการที่ประมาทจนเกินไป รวมทั้งการไม่พกพาเครื่องมือพิเศษและอุปกรณ์สำหรับงานกลางคืนของทหารหลายๆ นาย จนปฎิบัติการผลิกผันเกิดความผิดผลาด เมื่อพลทหารคนหนึ่งตกจากเครื่อง Black Hawk ขณะกำลังโรยตัวลงจากเครื่องที่ความสูง 60 ฟุต (Fast Rope) ทำให้บาดเจ็บ
Fast Rope
และ Black Hawk หมายเลข 61 (Hawk codename Super 61) ก็ถูก RPG ยิงตก ภาระกิจการบุกโจมตีแปรเปลี่ยนเป็นภารกิจช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ ส่วนการจับกุมกลุ่มผู้นำก็เป็นไปอย่างสับสนล่าช้าเพราะเกิดการโจมตีอย่างหนักจากฝูงชนที่ติดอาวุธ ขบวนรถก็ขับผิดทางหลงวนเวียนอยู่ในเมือง และถูกปิดกั้นถนน ขบวนรถพยายามอย่างหนักเพื่อหาทางกลับฐาน เครื่อง Black Hawk (Hawk codename Super 64) อีกลำถูกยิงตกมีกลุ่มประชาชน ชาวโซมาเลีย ผู้ไม่หวังดีเริ่มรุมล้อมเครื่องที่ตก สังหารนักบิน และลูกทีมยกเว้นนักบิน หนึ่งคนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
SGT.Eversmann และเสนารักษ์เข้ามาดูอาการของพลทหาร T.Blackburn
ขบวนรถกลับถึงฐานทัพได้แล้วแต่ยังมีเจ้าหน้าที่ติดอยู่ในเมือง และ ถูกชาวโซมาเลียล้อมอยู่ ถูกโจมตีอย่างหนักไม่สามารถออกจากเมืองได้ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในฐานทัพ และพวกทีมชุดแรกที่มาพร้อมกับขบวนรถ จัดทีมช่วยเหลือซึ่งประกอบด้วย กองพลเสือผู้เขาที่10 (the U.S. 10th Mountain Division) สองกลุ่ม หน่วยเรนเจอร์ที่เหลือ และกองกำลังรักษาความสงบสหประชาชาติ (กองกำลังปากีสถานกับรถเกราะของมาเลเซีย) รวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือผู้ยังติดค้างอยู่ในเมือง
เมื่อทีมช่วยเหลือเดินทางไปถึงก็เป็นเวลากลางคืน มีการต่อสู้อย่างหนัก ทีมช่วยเหลือใช้เฮลิคอปเตอร์ MH-6 Little Bird ในการยิงปืนกล เพื่อคุ้มครองและช่วยนำทาง ในที่สุด ทีมช่วยเหลือก็สามารถนำผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ที่ติดค้าง อยู่ออกมาได้ตามหลักการที่ว่าจะไม่ทิ้งเพื่อนไว้เบื้องหลังไม่ว่าจะเป็น หรือตาย ขณะเดินทางออกจากเมืองทีมเรนเจอร์ไม่สามารถขึ้นบนขบวน รถฮัมวี ได้ต้องเดินเท้ารั้งท้ายขบวนรถเพื่อตอบโต้การโจมตี
ผู้รอดชีวิตกับทีมช่วยเหลือกลับสู่สนามกีฬาที่อยู่ในการควบคุมของสหประชาชาติ จากการปฏิบัติการครั้งนี้มีทหารเสียชีวิต 18 นาย และบาดเจ็บ 73 คน ส่วนใหญ่จะเป็น Ranger รองลงมาจะเป็น Delta และ Night Stalkers (หน่วยบินที่ 160th SOAR) ส่วนทางโซมาเลียมีประชาชนเสียชีวิต ประเมินใน ขั้นต้น 350 คน แต่ หลังจากนั้น 5 ปี มีการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิต สูงถึง 500 กว่าคน บาดเจ็บกว่า 1000 คน ซึ่งรวมทั้งเด็ก ผู้หญิง และ ผู้สูงอายุ
ปฏิบัติการในครั้งนี้ถือว่าล้มเหลว เพราะการเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับต่างชาติ ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต และบาดเจ็บสูง ความล้มเหลว อันเนื่องมาจากกการสื่อสาร ที่สับสน ทางหัวหน้าหน่วย Delta กับ Ranger ไม่ได้ติดต่อสื่อสารกันแต่อย่างไร ทหารส่วนใหญ่ของ Ranger อายุก็ ประมาณ 20 ต้น ๆ เพิ่งจบม.ปลายมาเป็น อาจจะขาดประสบการณ์
การปฏิบัติการ Task Force Ranger ได้ประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป เพราะเชื่อว่าสามารถที่จะปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว ผลที่ตามมาก็เลย ไม่ได้นำสิ่งอุปกรณ์ ที่จำเป็นอื่น ๆ ติดตัวไป เช่น น้ำดื่ม Night Vision Goggles คำกล่าวที่ว่า Ranger Can Do! ก็อาจจะไม่จริงเสมอไป
ผู้ที่เป็น ผบ. Task Force Ranger นั้น คือ พล.ต. William F. Garrison ได้กล่าวในการชี้แจงต่อ สภาผู้แทนราษฎรว่า "If his men had put any more ammunition into the city. We would have sunk it." นั่นก็คือ ประชาชน เด็ก ผู้หญิง และ ผู้สูงอายุก็คงจะเสียชีวิตมากกว่านี้ นี่คืออีกมุมมองของทหาร สหรัฐ ฯ